ตอนที่4.การตั้งเงื่อนไขการว่าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก#สำหรับคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ ที่กำลังปวดหัวเรื่องการว่าจ้างพี่เลี้ยง หาพี่เลี้ยงแบบไหนไม่ให้ถูกโกง จ้างพี่เลี้ยงแบบไหนให้เขาอยู่ได้นาน เชิญทางนี้ค้า
ตอนที่4.การตั้งเงื่อนไขการว่าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก
เรื่องนี้สำคัญมากถ้าพี่เลี้ยงรับได้ก็น่าจะอยู่เลี้ยงเด็กกับเรานาน แต่บางท่านอาจจะมองว่าเครี่ยวแบบนี้ พี่เลี้ยงจะทำงานกับเราเหรอ ในความคิด Ling การหาคนมาเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกเรามันสำคัญ และมันยากกว่าการที่ HR หาพนักงานเข้าทำงานบริษัทมาก เนื่องจากการเลี้ยงเด็กเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน และ คนที่จะมาเลี้ยงต้องเป็นคนที่รักเด็กจริง ๆ และถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้น มันจะไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ ดังนั้น อยากจะให้คุณพ่อคุณแม่จริงจังกับการตั้งเงื่อนไขให้กับพี่เลี้ยงหน่อยค่ะ อย่ารีบรับเพราะกลัวไม่มีคนเลี้ยงลูก โดยไม่สนใจที่จะตั้งเงื่อนไขออะไรเลย ถ้าเราได้พี่เลี้ยงที่ช้าหน่อย แต่ได้มาแล้วพี่เลี้ยงอยู่นาน เราก็สบายนะค่ะ
ที่นี้ก็มาถึงเงื่อนไขที่ Ling ใช้กับพี่เลี้ยงที่ Ling ว่าจ้างมานะค่ะ คือ Ling จ้างพี่เลี้ยงแบบอยู่ประจำ นอนที่บ้านเราเลยค่ะ
1.ขอเก็บบัตรประชาชนตัวจริงของพี่เลี้ยงไว้กับเราตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเลยค่ะ แล้วจะคืนให้เมื่อตอนลากลับบ้าน แต่เมื่อกลับมาแล้วก็ต้องนำมาฝากไว้กับเราค่ะ (ถ้าพี่เลี้ยงทำงานแบบไป-กลับ ข้อนี้อาจจะต้องยกเลิกไปค่ะ)
2.ห้ามลากลับบ้านภายใน 3 เดือนแรก เพราะตอนสัมภาษณืพี่เลี้ยงมักจะบอกว่า เพิ่งจบเคสเลี้ยงน้องมา กลับไปทำธุระที่ต่างจังหวัดมาแล้ว ตอนนี้ไม่มีธุระอะไร จะเลี้ยงจนน้องเข้าโรงเรียน
3.หลังจาก 3 เดือน ถ้าอาทิตย์ไหนจะหยุดไม่ทำโอที ให้แจ้งล่วงหน้า 1 อาทิตย์ และไม่ให้พี่เลี้ยงลากลับบ้านในอาทิตย์ที่เงินเดือนออก และทุกครั้งที่ลากลับบ้านจะขอตรวจกระเป๋าก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง สิ่งหนึ่งที่สามารถดูได้เลยว่า ถ้าพี่เลี้ยงขอลากลับบ้านในวันที่เงินเดือนออก พี่เลี้ยงก็อาจจะไปแล้วไม่กลับมาแล้ว เราไม่ได้ต้องการให้พี่เลี้ยงเลี้ยงลูกเราไปตลอด และไม่ได้ห้ามลาออก แต่เราแค่ต้องการให้บอกล่วงหน้าว่าจะออก ไม่ใช่รับเงินปุ๊บแล้วบอกว่าออกปั๊บ แล้วเราจะไปหาพี่เลี้ยงเร็ว ๆ ได้ที่ไหน ก็อย่างที่แจ้งไปแล้วการจ้างพี่เลี้ยง ไม่ได้ง่ายเหมือนการจ้างพนักงานมาทำงานที่บริษัท
4.การจ่ายเงินเดือนจะขอแบ่งออกเป็น 2 งวด เช่น พี่เลี้ยงมาทำงานกับเราวันแรก คือ วันที่ 20 เวลาเราจะจ่ายเงินให้เขาก็ต้องเป็นวันที่ 20 เดือนหน้า ก็ควรจะขอคุยกับพี่เลี้ยงไปตั้งแต่ต้นเลยว่า เราจะขอจ่ายวันที่ 20 ครึ่งนึง อีกครึ่งนึงจะจ่ายวันที่ 27 แต่ถ้าพี่เลี้ยงต้องการลาออกแจ้งก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 14-30 วัน พี่เลี้ยงก็จะได้เงินตรงวัน คือ วันที่ 20 เลย
5.ไม่มีการเบิกเงินล่วงหน้า และห้ามยืมเงินเด็ดขาด
6.การขึ้นเงินเดือนจะขึ้นให้เมื่อทำงานครบ 6 เดือน หรือ 1ปี (แล้วแต่กำหนดค่ะ)
7.ถ้าอยู่ครบ 1 ปี หรือ 2 ปี จะมี Bonus พิเศษ อย่างไรก็ว่ากันไปค่ะ
ในส่วนตัวของ Ling นะค่ะ ถ้าพี่เลี้ยงไม่โอเคกับเงื่อนไขทั้งหมดนี้ Ling ก็จะไม่รับพี่เลี้ยงคนนั้นค่ะ เนื่องจากว่า Ling ก็จะคิดว่า พี่เลี้ยงเขาอาจจะอยู่ไม่นาน หรือ หนีกลับ หรือรับเงินเดือนแล้วลาออกเลยแบบไม่ให้เวลาเรา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในเรื่องของเงื่อนไข คุณพ่อคุณแม่ทุก ๆ ท่าน ก็ลองคิดเพิ่ม หรือ ตัดบางข้อออก ก็แล้วแต่ตามสภาพแวดล้อมของแต่ละครอบครัวนะค่ะ
มาถึงจุดนี้แล้ว คุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ทุกท่าน ก็คงมีไอเดียสำหรับการจ้างพี่เลี้ยงที่โอเค ให้กับลูกน้อยได้บ้างแล้วนะค่ะ ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านไหน มีความคิดเห็นเพิ่มเติม มาช่วยกัรแชร์ได้เลยนะค่ะ
เรื่องนี้สำคัญมากถ้าพี่เลี้ยงรับได้ก็น่าจะอยู่เลี้ยงเด็กกับเรานาน แต่บางท่านอาจจะมองว่าเครี่ยวแบบนี้ พี่เลี้ยงจะทำงานกับเราเหรอ ในความคิด Ling การหาคนมาเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกเรามันสำคัญ และมันยากกว่าการที่ HR หาพนักงานเข้าทำงานบริษัทมาก เนื่องจากการเลี้ยงเด็กเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน และ คนที่จะมาเลี้ยงต้องเป็นคนที่รักเด็กจริง ๆ และถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้น มันจะไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ ดังนั้น อยากจะให้คุณพ่อคุณแม่จริงจังกับการตั้งเงื่อนไขให้กับพี่เลี้ยงหน่อยค่ะ อย่ารีบรับเพราะกลัวไม่มีคนเลี้ยงลูก โดยไม่สนใจที่จะตั้งเงื่อนไขออะไรเลย ถ้าเราได้พี่เลี้ยงที่ช้าหน่อย แต่ได้มาแล้วพี่เลี้ยงอยู่นาน เราก็สบายนะค่ะ
ที่นี้ก็มาถึงเงื่อนไขที่ Ling ใช้กับพี่เลี้ยงที่ Ling ว่าจ้างมานะค่ะ คือ Ling จ้างพี่เลี้ยงแบบอยู่ประจำ นอนที่บ้านเราเลยค่ะ
1.ขอเก็บบัตรประชาชนตัวจริงของพี่เลี้ยงไว้กับเราตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเลยค่ะ แล้วจะคืนให้เมื่อตอนลากลับบ้าน แต่เมื่อกลับมาแล้วก็ต้องนำมาฝากไว้กับเราค่ะ (ถ้าพี่เลี้ยงทำงานแบบไป-กลับ ข้อนี้อาจจะต้องยกเลิกไปค่ะ)
2.ห้ามลากลับบ้านภายใน 3 เดือนแรก เพราะตอนสัมภาษณืพี่เลี้ยงมักจะบอกว่า เพิ่งจบเคสเลี้ยงน้องมา กลับไปทำธุระที่ต่างจังหวัดมาแล้ว ตอนนี้ไม่มีธุระอะไร จะเลี้ยงจนน้องเข้าโรงเรียน
3.หลังจาก 3 เดือน ถ้าอาทิตย์ไหนจะหยุดไม่ทำโอที ให้แจ้งล่วงหน้า 1 อาทิตย์ และไม่ให้พี่เลี้ยงลากลับบ้านในอาทิตย์ที่เงินเดือนออก และทุกครั้งที่ลากลับบ้านจะขอตรวจกระเป๋าก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง สิ่งหนึ่งที่สามารถดูได้เลยว่า ถ้าพี่เลี้ยงขอลากลับบ้านในวันที่เงินเดือนออก พี่เลี้ยงก็อาจจะไปแล้วไม่กลับมาแล้ว เราไม่ได้ต้องการให้พี่เลี้ยงเลี้ยงลูกเราไปตลอด และไม่ได้ห้ามลาออก แต่เราแค่ต้องการให้บอกล่วงหน้าว่าจะออก ไม่ใช่รับเงินปุ๊บแล้วบอกว่าออกปั๊บ แล้วเราจะไปหาพี่เลี้ยงเร็ว ๆ ได้ที่ไหน ก็อย่างที่แจ้งไปแล้วการจ้างพี่เลี้ยง ไม่ได้ง่ายเหมือนการจ้างพนักงานมาทำงานที่บริษัท
4.การจ่ายเงินเดือนจะขอแบ่งออกเป็น 2 งวด เช่น พี่เลี้ยงมาทำงานกับเราวันแรก คือ วันที่ 20 เวลาเราจะจ่ายเงินให้เขาก็ต้องเป็นวันที่ 20 เดือนหน้า ก็ควรจะขอคุยกับพี่เลี้ยงไปตั้งแต่ต้นเลยว่า เราจะขอจ่ายวันที่ 20 ครึ่งนึง อีกครึ่งนึงจะจ่ายวันที่ 27 แต่ถ้าพี่เลี้ยงต้องการลาออกแจ้งก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 14-30 วัน พี่เลี้ยงก็จะได้เงินตรงวัน คือ วันที่ 20 เลย
5.ไม่มีการเบิกเงินล่วงหน้า และห้ามยืมเงินเด็ดขาด
6.การขึ้นเงินเดือนจะขึ้นให้เมื่อทำงานครบ 6 เดือน หรือ 1ปี (แล้วแต่กำหนดค่ะ)
7.ถ้าอยู่ครบ 1 ปี หรือ 2 ปี จะมี Bonus พิเศษ อย่างไรก็ว่ากันไปค่ะ
ในส่วนตัวของ Ling นะค่ะ ถ้าพี่เลี้ยงไม่โอเคกับเงื่อนไขทั้งหมดนี้ Ling ก็จะไม่รับพี่เลี้ยงคนนั้นค่ะ เนื่องจากว่า Ling ก็จะคิดว่า พี่เลี้ยงเขาอาจจะอยู่ไม่นาน หรือ หนีกลับ หรือรับเงินเดือนแล้วลาออกเลยแบบไม่ให้เวลาเรา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในเรื่องของเงื่อนไข คุณพ่อคุณแม่ทุก ๆ ท่าน ก็ลองคิดเพิ่ม หรือ ตัดบางข้อออก ก็แล้วแต่ตามสภาพแวดล้อมของแต่ละครอบครัวนะค่ะ
มาถึงจุดนี้แล้ว คุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ทุกท่าน ก็คงมีไอเดียสำหรับการจ้างพี่เลี้ยงที่โอเค ให้กับลูกน้อยได้บ้างแล้วนะค่ะ ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านไหน มีความคิดเห็นเพิ่มเติม มาช่วยกัรแชร์ได้เลยนะค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น