ตอนที่3.การสัมภาษณ์พี่เลี้ยง#สำหรับคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ ที่กำลังปวดหัวเรื่องการว่าจ้างพี่เลี้ยง หาพี่เลี้ยงแบบไหนไม่ให้ถูกโกง จ้างพี่เลี้ยงแบบไหนให้เขาอยู่ได้นาน เชิญทางนี้ค้า

3.การสัมภาษณ์พี่เลี้ยง
หลังจากที่เราโทรเข้าไปหาศูนย์ว่าเราต้องการพี่เลี้ยงเด็กแล้ว ศูนย์ส่วนใหญ่ก็จะบอกให้เรารอสัก1-2วันเพื่อเขาจะได้ตามพี่เลี้ยงที่เพิ่งจะออกจากที่เก่า และเขาก็จะพาพี่เลี้ยงมาส่งที่บ้านเราเพื่อให้เราดูตัว ถ้าโอเคก็รับไปเลย แต่
Ling ขอแจ้งว่าวิธีนี้ไม่โอเคนะค่ะ เราควรจะขอสัมภาษณ์พี่เลี้ยงทางโทรศัพท์ก่อน เนื่องจากว่าบางครั้งเราขอคุนทางโทรศัพท์แล้วเราก็อาจจะรู้ได้เลยว่าพี่เลี้ยงคนนี้โอ หรือ ไม่โอ มิเช่นนั้นแล้วเราจะต้องเสียค่ารถสำหรับพาคนเข้ามาให้ดูตัว ประมาณครั้งละ 500-1,000 บาท ถีงแม้ว่าเราจะไม่ได้ว่าจ้างเด็กของศูนย์นั้น ๆ ก็ตาม ที่นี้ Ling ขอแบ่งการตั้งคำถามเป็น 2 แบบ คือ แบบแรกการตั้งคำถามสัมภาษณ์พี่เลี้ยงทางโทรศัพท์ และ แบบที่สอง การตั้งคำถามสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเมื่อศูนย์พามาส่งตัวที่บ้านเราแล้ว
แบบที่1 คำถามสำหรับสัมภาษณ์พี่เลี้ยงทางโทรศัพท์ จะเป็นคำถามพื้นฐานที่เราควรจะรู้จักพี่เลี้ยงก่อนที่เราจะนัดศูนย์เข้ามาส่งให้กับเรา
1.ชื่อจริง ชื่อเล่น เป็นคนจังหวัดไหน อายุเท่าไหร่
2.ส่วนสูง ขาวดำ อ้วนผอม น้ำหนักเท่าไหร่ ส่วนสูงเท่าไหร่
คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจจะงงว่าต้องถามกันถึงขนาดนี้เลยหรือ
Ling ขอบอกว่าใช่ค่ะ เนื่องจากเคยเจอนะค่ะว่าพี่เลี้ยงที่ศูนย์นำมาส่งตัวกับ คนที่เราสัมภาษณ์นั้น เป็นคนละคนกัน และบางศูนย์จะใช้คนที่ตอบคำถามเก่งมาเป็นคนสัมภาษณ์ แต่พี่เลี้ยงจริง ๆ ที่มาเป็นคนละคนกันเลยค่ะ มาเข้าในส่วนของคำถามกันต่อเลยค่ะ
3.ประสบการณ์เลี้ยงเด็ก เคยเลี้ยงเด็กมาทั้งหมดกี่ปี เลี้ยงมาทั้งหมดกี่คน แล้วทำไมถึงลาออก
Ling เดาได้เลยนะค่ะว่า พี่เลี้ยงจะต้องตอบแบบ Perfect ว่า เลี้ยงตั้งแต่แรกคลอดจนน้องเข้าโรงเรียน ไม่มีอะไรให้ทำแล้ว จึงลาออก เพราะอยากเลี้ยงเด็ก อยู่บ้านน้องคนเก่าก็ไม่มีอะไรทำ ประมาณนี้ แต่การตอบคำถามแบบนี้ก็เป็นธรรมดาของพี่เลี้ยง คงไม่มีคนไหนหรอกที่จะบอกว่า เลี้ยงน้องไม่ไหว ทนเจ้านายเก่าไม่ได้ อยากนอนห้องแอร์ (คำตอบที่เป็นจริงมาก ๆ สำหรับพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนค่ะ) แต่ที่ให้ถามข้อนี้ไว้ก่อนเลยเพราะว่า ถ้าเจอพี่เลี้ยงแบบที่ไม่ตอบแบบ Perfect ตามที่ Ling เดาไว้ก็ไม่ควรจ้างหรอกค่ะ เพราะแสดงว่าพี่เลี้ยงต้องเรื่องมากในระดับนึง มาก็จะทำงานได้ไม่นาน รับเงินเดือนแล้วเดี๋ยวก็ออก
คำถามทางโทรศัพท์ก็จะเป็นคำถามแบบง่าย ๆ ถ้าเจอพี่เลี้ยงที่ตอบไม่ได้ ฟังเราพูดแล้วไม่เข้าใจ(เนื่องจากเอากระเหรี่ยง หรือ ชาวเขามา บอกเราว่าเป็นคนไทยภาคเหนือ เพื่ออัพเงินเดือนให้เท่ากับคนไทย) หรือ เจอพี่เลี้ยงที่หงุดหงิกกับคำถามเพียงเท่านี้ของเราก็ไม่ต้องนัดให้ศูนย์พาเขามาหรอกค่ะ เสียเงินค่ารถพาเข้ามาเปล่า ๆ เพราะเมื่อพี่เลี้ยงเข้ามาแล้วมาเจอคำถามเชิงลึกต่อไป เขาก็จะตอบไม่ได้ หรือ หงุดหงิดจนเราก็จะไม่จ้างเขาอยู่ดี
แบบที่2 คำถามสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเมื่อศูนย์พามาส่งตัวที่บ้านเราแล้ว
และแล้วก็มาถึงคำถามที่เจาะลึกขึ้นไปอีกหน่อยในการสัมภาษณ์พี่เลี้ยง
Ling ขอแชร์นิดนึงค่ะว่า การถามคำถามของเรานี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เนื่องจากว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทุกคน คงไม่ได้อยากได้พี่เลี้ยงมือใหม่ หรือพี่เลี้ยงที่ไม่มีความชำนาญในการเลี้ยงเด็ก หรือ พี่เลี้ยงที่มาจากคนที่เคยทำงานเป็นแม่บ้านทำความสะอาด มาเลี้ยงลูกน้อยของคุณหรอกนะค่ะ ฉะนั้น เราจำเป็นต้องจริงจังหน่อยค่ะ และเวลาเราคุยกับพี่เลี้ยงควรให้คนของศูนย์ (คนที่มาส่งตัวพี่เลี้ยง) อยู่อีกที่นึง คือไม่ให้ได้ยินเราสัมภาษณ์พี่เลี้ยง เพื่อไม่ให้เขาไปเตรียมกับพี่เลี้ยงคนใหม่ ในกรณีที่เราไม่ได้ว่าจ้างพี่เลี้ยงคนนี้เข้าทำงาน
1.ชื่อจริง ชื่อเล่น เป็นคนจังหวัดไหน อายุเท่าไหร่ (คำถามเดิม ลองดูสิว่าตอบเหมือนเดิมมั๊ย)
นอกจากนั้นเราต้องจำคำตอบของข้อ 2 ตอนที่เราสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ด้วยว่า ลักษณะเขาตรงกับตอนตอบเราทางโทรศัพท์รึเปล่า เพื่อยืนยันว่า ศูนย์พาพี่เลี้ยงที่คุณสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์มาให้คุณดูตัว และแอบดูเล็บมือ เล็บเท้าเขาหน่อย ถ้าคนที่ไว้เล็บ หรือ ทาเล็บมา ไม่ควรรับเลย เนื่องจากเราสามารถสมมุติฐานได้ว่า เขาโกหกแน่เลย หรือ การเลี้ยงด็กก็ควรจะมีเล็บมือเล็บเท้าที่สั้น เพื่อความสะอาด อย่าลืมนะค่ะ ว่า การเลี้ยงเด็กความสะอาดสำคัญที่สุด
2.บ้านล่าสุดที่เคยเลี้ยงมาอยู่แถวไหน น้องชื่ออะไร (ถ้าอ้ำอึ้ง จำชื่อไม่ได้ แสดงว่าเนียน) พอจะมีเบอร์ของนายจ้างเก่ารึเปล่า เชื่อว่า พี่เลี้ยงต้องตอบว่าไม่ได้เก็บเบอร์ไว้ ไม่ได้เอามา คำตอบอะไรก็ได้เพื่อที่จะไม่ให้เรา แต่แบบนี้ คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องไป
Serious กับคำตอบแบบนี้หรอกนะค่ะ แค่ถามไปเฉย ๆ เผื่อเจอคนที่บอกว่าโทรไปสอบถามได้เลย แสดงว่าพี่เลี้ยงคนนั้นเจ๋งจริง ๆ หานายจ้างเก่ามาเป็น reference ได้ แต่ตั้งแต่ Ling ช่วยพี่สาวของ Ling สัมภาษณ์พี่เลี้ยงที่จะมาเลี้ยงลูกของเขา Ling ก็ไม่เห็นเคยได้เบอร์โทรศัพท์นายจ้างเก่ามาสักที
3.ครอบครัวที่บ้านทำอะไร แต่งงานรึยัง พ่อแม่แข็งแรงดีมั๊ย ลูกเข้าโรงเรียนรึยัง ที่บ้านมีใครที่เราต้องดูแลรึเปล่า
ขอให้ระวังไว้เลยว่าถ้าที่บ้านทำนา พี่เลี้ยงก็จะมีโอกาสที่จะลาออกช่วงทำนาโดยให้เหตุผลว่า ทางบ้านให้ออกไปช่วยทำนา หรือถ้าลูกเล็ก ๆ ไม่เกิน 2 ขวบ ก็มีโอกาสในการลาออกเพราะลูกป่วย ต้องกลับไปดูแลลูก หรือ ไม่มีคนเลี้ยงลูกอะไรประมาณนี้
4.มีอะไรที่ทนไม่ได้เลยรึเปล่าตอนที่เลี้ยงอยู่ที่เก่า คุณก็ต้องลองฟังดูเอาเองว่าเรื่องที่เขารับไม่ได้บ้านคุณมีข้อนี้อยู่ด้วยรึเปล่า ขึ้นอยู่แต่ละบ้านค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าพี่เลี้ยงเขาตอบว่าเขาต้องนอนห้องแอร์ ในขณะที่ห้องที่คุณจะให้เขานอนเป็นห้องพัดลม คุณก็ไม่ควรที่รับเขา ถูกมั๊ยค่ะ เพราะรับเข้ามาเขาก็อยู่ไม่ได้ หรือ คุณจะต้องให้เขาซักเสื้อผ้าของน้อง แต่เขาบอกว่าเขารับเรื่องการซักผ้าไม่ได้ คุณจะจ้างเขามาทำอะไร เป็นต้น
5.ถ้าคุณให้เขามาเลี้ยงลูกแรกคลอดสิ่งหนึ่งที่ควรถามเลยว่า พี่เลี้ยงลองอาบน้ำเด็กให้ดูหน่อย คุณลองเอาตุ๊กตาอะไรก็ได้ให้เขาลองทำท่าให้ดู เพราะถ้าพี่เลี้ยงคนไหนจับตุ๊กตายืนอาบน้ำ คุณเลิกคิดที่จะว่าจ้างพี่เลี้ยงคนนั้นได้เลย เพราะ ส่วนตัว
Ling คิดว่าการเลี้ยงเด็กอ่อน ตอนอาบน้ำเป็นตอนที่ต้องจับตามอง เพราะน้ำกับเด็กเล็กค่อนข้างอันตรายมาก
6.คุณลองถามว่าเด็กล่าสุดที่พี่เลี้ยงเพิ่งจบเคสมา น้องทานนมแบบไหน ถ้าทานนมแม่คุณลองสอบถามว่า กินครั้งละกี่ออนซ์ อุ่นนมแบบไหน หรือ ถ้าเป็นนมชงลองถามว่ากินยี่ห้ออะไร ชงนมแบบไหน
7.ใช้เครื่องนึ่งขวดนมยี่ห้ออะไร แล้วใช้ยังไง ทำกับข้าวให้น้องทานยังไง
สำหรับข้อ 6 ข้อ 7 ถ้าตอบไม่ได้ก็แสดงว่าพี่เลี้ยงพวกนี้ไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน ไม่ควรจ้าง เพราะถ้าเขาเลี้ยงเด็กกันนานจริง ๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะตอบเรื่องนม เรื่องอาหาร หรือ เรื่องของใช้ของน้องไม่ได้
8.คิดว่าจะทำงานเลี้ยงลูกพี่คนนี้นานแค่ไหน
พี่เลี้ยงก็ควรจะตอบว่าเลี้ยงจนน้องเข้าโรงเรียน แต่ถ้าเจอพี่เลี้ยงตอบว่า ดูก่อนว่าอยู่ได้มั๊ย ไม่ควรรับ เนื่องจากว่าคุณอยากให้เขาเอาลูกของคุณซึ่งเล็กมาก มาเป็นการทดลองหรือ
9.อยู่กับศูนย์นี้มานานแค่ไหน คุณก็ควรจะต่อเขาด้วยคำถามที่ไม่
Serious มาก ตอบง่าย ๆ บ้างเพื่อให้เขาไม่รู้สึกกดดันกับบ้านของคุณ ทีนี้จะถามอะไรก็ตามใจแต่ละบ้านเลยค่ะ
หลังจากถามคำถามเสร็จเรียบร้อย แล้วคุณได้คำตอบที่พอใจจนทำให้คุณจะว่าจ้างพี่เลี้ยงคนนั้น คุณควรอธิบายลักษณะการทำงานของคุณ ให้เขาเลี้ยงกี่โมงถึงกี่โมง นอนกับน้องด้วยรึเปล่า งานที่พี่เลี้ยงต้องทำ ห้องนอนของพี่เลี้ยงเป็นยังไง สิ่งที่ห้ามทำ ให้เขาฟัง เพื่อให้เขาได้คิดด้วยว่าเขาโอเค ทำได้ รับได้ รึเปล่า แต่
Ling ขอบอกไว้อย่างนึงว่าเมื่อมาถึงบ้านนายจ้างแล้ว พี่เลี้ยงจะไม่ค่อยกล้าปฏิเสธที่จะไม่ทำ เนื่องจากว่าถ้าพี่เลี้ยงไม่ทำ ศูนย์ก็จะไม่ได้รับเงินมัดจำจากคุณ และเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เขาตอบความจริง คุณควรจะตั้งเงื่อนไขของการทำงานมาบอกพี่เลี้ยงเพื่อให้เขาต้องตัดสินใจด้วยว่าเขาจะทำงานกับคุณด้วยรึเปล่า

ความคิดเห็น